อิเล็กทรอไลต์

ไอออนใน กรด-เบส

ทฤษฏีกรด-เบส

คู่กรด-เบส

การแตกตัว กรด-เบส

การแตกตัวของน้ำ

pH ของสารละลาย

อินดิเคเตอร์

กรด-เบส ในชีวิตประจำวัน

ปฏิกิริยา กรด-เบส

สารละลายบัฟเฟอร์

การไทเทรต กรด-เบส

      หน่วยที่ 1 : เรื่องสารละลายอิเล็กทรอไลต์นอนอิเล็กทรอไลต์
      สารละลายกรด ทฤษฏีกรด-เบส และคู่กรด-เบส

 


 |


คู่กรด - เบส    

     จากปฏิกิริยาของกรดกับเบสที่กล่าวถึงแล้ว ตามทฤษฎีของเบรินสเตต- เลาว์รี จะเห็นว่าในปฏิกิริยาหนึ่งๆ อาจจะจัดคู่กรด- เบสได้ 2 คู่ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น

ปฏิกิริยาตัวอย่างนี้ ปฏิกิริยาไปข้างหน้า NH4+ ทำหน้าที่เป็นกรด เพราะให้ H+ กับ H2O แล้วได้เป็น NH3และ H2O รับ
H+ ทำหน้าที่เป็นเบส ส่วนปฏิกิริยาย้อนกลับ H3O+ เป็นกรด เพราะให้ H+ กับ NH3 ซึ่งเป็นเบส แล้วได้ H2O และ NH4+ ตามลำดับ

เรียก NH4+ ว่าคู่กรดของ NH3 ( เบส)

H2O ว่าคู่เบสของ H3O+ ( กรด)

NH3 ว่าคู่เบสของ NH4+

H3O+ ว่าคู่กรดของ H2O

จะเห็นได้ว่า คู่กรด- เบสนั้นจะมีจำนวนโปรตอน (H) ต่างกัน 1 ตัว หรืออาจกล่าวได้ว่า จำนวนโปรตอนของคู่กรด จะมากกว่าโปรตอนคู่เบสอยู่ 1 ตัวเสมอ

ตัวอย่างอื่นๆ ของปฏิกิริยาคู่กรด - เบส

ความแรงของกรดและเบส

การเปรียบเทียบความแรงของกรดและเบส อาจจะพิจารณาได้ดังนี้

1. ดูจากการแตกตัวของกรด

กรดที่มีการแตกตัวมาก มีความเป็นกรดมาก กรดและเบสที่แตกตัวได้ 100% จะเรียกว่ากรดแก่ และเบสแก่ ตามลำดับ ซึ่งสามารถนำไฟฟ้าได้ดี แต่ถ้ากรดและเบสนั้นแตกตัวได้เพียงบางส่วนก็จะเรียกว่า กรดอ่อน หรือเบสอ่อน ตามลำดับ ซึ่งการนำไฟฟ้าจะไม่ดี

สำหรับการพิจารณาค่าการแตกตัวของกรดและเบสนั้น นอกจากจะคิดจากเปอร์เซ็นต์การแตกตัว หรืออาจจะดูได้จากค่าคงที่สมดุลของการแตกตัวของกรดหรือเบส (Ka หรือ Kb) เช่น

ความแรงของเบส พิจารณาจากค่า Kb กล่าวคือ ถ้ามีค่า Kb มาก มีความเป็นเบสมากกว่า Kb น้อย เช่น

NH3        Kb = 1.76 x 10-5

N2H4         Kb = 9.5 x 10-7

C 6H5NH2       Kb = 4.3 x 10 -10

ความเป็นเบส NH3> N2H4 > C6H5NH2

ที่มา : http://wisor116.exteen.com/20070221/indicator

2. ดูจากความสามารถในการให้และรับโปรตอน

กรดแก่ ได้แก่ กรดที่ให้โปรตอนได้มาก

กรดอ่อน ได้แก่ กรดที่ให้โปรตอนได้น้อย

เบสแก่ ได้แก่ เบสที่รับโปรตอนได้มาก

เบสอ่อน ได้แก่ เบสที่รับโปรตอนได้น้อย

โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคู่กรด- เบส ดังนี้

  • ถ้ากรดเป็นกรดแก่ คู่เบสจะเป็นเบสอ่อน เช่น

HCl (aq) + H2O(l)  H3O+ (aq) + Cl- (aq)

        กรดแก่                                            เบสอ่อน

  • ถ้ากรดเป็นกรดอ่อน คู่เบสจะเป็นเบสแก่ เช่น

HS- (aq) + H2O(l)H3O+(aq) + S2- (aq)

         กรดอ่อน                                        เบสแก่

  • ถ้าเบสเป็นเบสแก่ คู่กรดจะเป็น กรดอ่อน เช่น

H3O+(aq) + S2-(aq) HS- (aq) + H2O(l)

                         เบสแก่            กรดอ่อน

  • ถ้าเบสเป็นเบสอ่อน คู่กรดจะเป็น กรดแก่ เช่น

Cl-(aq) + H3O+(aq) HCl(aq) + H2O(l)

        เบสอ่อน                           กรดแก่

ตารางลำดับความแรงของกรดและเบสตัวอย่างตามทฤษฎีของเบรินสเตต- เลาว์รี

3. ดูจากการเรียงลำดับในตารางธาตุ

การพิจารณาความแรงของกรดและเบสดูจากการเรียงลำดับของธาตุที่อยู่ในกรดนั้น ตามตารางธาตุ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น

     3.1 กรดออกซี หมายถึง กรดที่ประกอบด้วย H, O และธาตุอื่นอีก เช่น HNO3 ,H3PO4,H3AsO4 ,HClO4 ถ้าจำนวนอะตอมออกซิเจนเท่ากัน ความแรงของกรดเรียงลำดับดังนี้

ดังนั้น H2SO4 > H2SeO4 , H3PO4 > H3AsO4

     3.2 กรดที่ไม่มีออกซิเจน เช่น HCl, HBr, HF, และ HI ความแรงของกรดแรงลำดับดังนี้

HI > HBr > HCl > HF

H2S > H2O

 


  แบบฝึกหัด

   หน่วยที่ 1 : เรื่องสารละลายอิเล็กทรอไลต์นอนอิเล็กทรอไลต์
   สารละลายกรด ทฤษฏีกรด-เบส และคู่กรด-เบส